
เพื่อน ๆ เคยไหมคะ? ซื้ออาหารมาเต็มไม้เต็มมือ จะวางก็กลัวเลอะเทอะไปหมด แล้วจู่ ๆ ก็มี กระดาษรองอาหาร โผล่มาเป็นฮีโร่ช่วยชีวิต แต่เดี๋ยวก่อน! เจ้า กระดาษรองอาหาร ที่ว่าเนี่ย มันมีทั้งแบบเคลือบและไม่เคลือบนะ แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าแบบไหนเหมาะกับอาหารที่เราถืออยู่? วันนี้เราจะมาเจาะลึกทุกเรื่องของ กระดาษรองอาหาร พร้อมไขข้อข้องใจให้เพื่อน ๆ ได้เลือกใช้กันแบบมือโปร ไม่ต้องกลัวพลาดอีกต่อไปค่ะ!
หัวใจของการเลือกว่าจะใช้กระดาษรองอาหารแบบเคลือบหรือไม่เคลือบ
กระดาษรองอาหารนี่ก็มีรายละเอียดเยอะกว่าที่คิดเหมือนกันนะเนี่ย! เราเข้าใจเลยว่าเพื่อน ๆ หลายคนอาจจะเคยคิดว่ามันก็แค่กระดาษแผ่น ๆ นึง แต่จริง ๆ แล้วมันส่งผลต่อคุณภาพอาหารของเราได้เลยนะ โดยเฉพาะเรื่องของความมันเยิ้มและการซึมเปื้อนเนี่ยตัวดีเลยค่ะ
กระดาษรองอาหารแบบเคลือบ: ตัวช่วยมือโปรสำหรับอาหารฉ่ำซอสและทอดกรอบ
มาเริ่มกันที่กระดาษรองอาหารแบบเคลือบกันก่อนเลยค่ะ เจ้าตัวนี้เค้าจะมีชั้นฟิล์มบาง ๆ เคลือบอยู่ด้านบน ทำให้มันมีคุณสมบัติกันน้ำและไขมันได้ดีเยี่ยมเลยค่ะ นึกภาพตามนะ ถ้าเราสั่งไก่ทอดร้อน ๆ หรือเฟรนช์ฟรายส์ที่เพิ่งขึ้นจากกระทะ น้ำมันเยิ้ม ๆ พวกนั้นจะถูกกักเก็บไว้บนกระดาษเคลือบ ไม่ซึมลงไปเปื้อนภาชนะหรือมือเราเลยค่ะ
- เหมาะกับอาหารประเภทไหน:
- อาหารทอด: ไก่ทอด, เฟรนช์ฟรายส์, นักเก็ต, เกี๊ยวทอด
- อาหารมัน: ขนมปังปิ้งเนย, แฮมเบอร์เกอร์ที่มีซอสเยอะ ๆ
- อาหารที่มีซอสหรือน้ำเยอะ: พาสต้าซอส, ก๋วยเตี๋ยวแห้งที่มีน้ำคลุกคลิก
- ข้อดีที่ต้องรู้:
- กันน้ำและไขมันได้ดีเยี่ยม: หมดปัญหาซึมเปื้อน
- คงความกรอบ: สำหรับอาหารทอด เพราะช่วยลดการซึมซับไอน้ำมัน
- ช่วยให้ดูน่าทาน: อาหารไม่แฉะ ไม่มันเยิ้ม
- ข้อควรระวัง:
- ราคาสูงกว่าแบบไม่เคลือบ: อาจต้องพิจารณาเรื่องต้นทุน
- ย่อยสลายยากกว่า: เนื่องจากมีชั้นฟิล์มพลาสติก (แต่เดี๋ยวนี้ก็มีแบบเคลือบไบโอพลาสติกที่ย่อยสลายได้แล้วนะ!)
กระดาษรองอาหารแบบไม่เคลือบ: ทางเลือกสายคลีนสำหรับอาหารแห้งและเบเกอรี่
มาถึงกระดาษรองอาหารแบบไม่เคลือบกันบ้างค่ะ เจ้าตัวนี้จะไม่มีการเคลือบสารใด ๆ เลย ทำให้เค้ามีคุณสมบัติในการระบายอากาศและซึมซับความชื้นได้ดีกว่าค่ะ ลองนึกถึงขนมปังอบใหม่ ๆ หรือเบเกอรี่ที่ต้องการให้ความร้อนระบายออกไป ไม่ให้เกิดการอับชื้นจนนิ่มแฉะ แบบไม่เคลือบนี่แหละตอบโจทย์สุด ๆ
- เหมาะกับอาหารประเภทไหน:
- เบเกอรี่: ขนมปัง, เค้ก, คุกกี้, พาย
- แซนด์วิช: ที่ไม่มีซอสเยอะ
- อาหารแห้ง: ข้าวปั้น, แครกเกอร์
- อาหารที่ต้องการระบายความร้อน: ข้าวโพดคั่วร้อน ๆ ที่เพิ่งขึ้นจากเครื่อง
- ข้อดีที่ต้องรู้:
- ราคาประหยัด: คุ้มค่ากว่า
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: ย่อยสลายง่ายกว่า
- ระบายอากาศได้ดี: ช่วยลดการอับชื้นในอาหารบางชนิด
- ข้อควรระวัง:
- ไม่กันน้ำและไขมัน: ถ้าเจออาหารมัน ๆ หรือมีน้ำเยอะ ๆ ซึมแน่นอน!
- อาจทำให้กระดาษเปียกและยุ่ยง่าย: เมื่อสัมผัสกับของเหลว
นอกเหนือจากชนิดกระดาษ สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามในการเลือกกระดาษรองอาหาร
นอกจากเรื่องเคลือบไม่เคลือบแล้ว ยังมีเรื่องอื่น ๆ ที่เราต้องคำนึงถึงในการเลือกกระดาษรองอาหารด้วยนะเพื่อน ๆ เพราะบางทีเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้แหละ ที่จะช่วยให้เราใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด แถมยังปลอดภัยต่อสุขภาพด้วยค่ะ
เรื่องของ “มาตรฐาน” และ “ความปลอดภัย” ของกระดาษรองอาหาร
ฟังดูเป็นเรื่องไกลตัวใช่ไหมคะ? แต่จริง ๆ แล้วสำคัญมากเลยนะ! กระดาษรองอาหารที่เราเลือกใช้ ควรจะเป็นเกรดสำหรับสัมผัสอาหารโดยเฉพาะ ไม่ใช่กระดาษรีไซเคิลที่ไม่รู้ว่าผ่านอะไรมาบ้าง เพราะบางทีสารเคมีที่ใช้ในการผลิตกระดาษทั่วไปอาจจะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ถ้ามีการปนเปื้อนสู่อาหารค่ะ
- มองหาสัญลักษณ์ Food Grade: เป็นเครื่องยืนยันว่ากระดาษนั้นปลอดภัยสำหรับสัมผัสอาหารโดยตรงค่ะ
- เลือกจากผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ: บริษัทที่มีชื่อเสียงมักจะใส่ใจเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยมากกว่า
- สังเกตสีและกลิ่น: กระดาษ Food Grade มักจะมีสีขาวนวล ไม่มีกลิ่นฉุนแปลก ๆ
ไซส์และรูปทรงของกระดาษรองอาหารที่เหมาะกับการใช้งาน
เรื่องนี้ก็สำคัญไม่แพ้กันเลยนะ! การเลือกขนาดและรูปทรงของกระดาษรองอาหารให้เหมาะสมกับภาชนะและชนิดอาหาร จะช่วยให้เราจัดวางอาหารได้สวยงามและใช้งานได้สะดวกขึ้นค่ะ
- กระดาษรองอาหารแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า: เหมาะสำหรับถาด, กล่องอาหาร หรือรองอาหารชิ้นยาว ๆ อย่างฮอทดอก, แซนด์วิช
- กระดาษรองอาหารแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัส: เหมาะสำหรับวางในกล่องเบเกอรี่, กล่องอาหารขนาดเล็ก หรือรองขนมชิ้นเดียว
- กระดาษรองอาหารแบบวงกลม: เหมาะสำหรับรองใต้พิซซ่า, เค้กกลม หรือวางในจานกลม
อย่าลืมวัดขนาดภาชนะหรืออาหารของเราก่อนตัดสินใจซื้อ กระดาษรองอาหาร นะคะ จะได้ไม่เสียเวลาเปลี่ยน หรือต้องมานั่งตัดเองให้ยุ่งยากค่ะ
เลือกกระดาษรองอาหารให้ถูกใจ อาหารก็อร่อยขึ้น!
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อน ๆ ตัดสินใจเลือก กระดาษรองอาหาร ได้อย่างมั่นใจและเหมาะสมกับอาหารแต่ละประเภทมากขึ้นนะคะ จากนี้ไปไม่ว่าจะเป็นอาหารทอดกรอบ ขนมปังหอม ๆ หรือเบเกอรี่ชิ้นโปรด เราก็สามารถเลือก กระดาษรองอาหาร ได้อย่างชาญฉลาด ไม่ต้องกังวลเรื่องความมันเยิ้มหรือความแฉะอีกต่อไป
จำง่าย ๆ แค่ 2 อย่างค่ะ: ถ้าต้องการกันน้ำ กันไขมัน เลือกแบบเคลือบ แต่ ถ้าเน้นระบายอากาศ ไม่เน้นกันน้ำมาก เลือกแบบไม่เคลือบ แค่นี้ชีวิตการกินของเราก็จะแฮปปี้ขึ้นเยอะเลยค่ะ! แล้วเพื่อน ๆ ล่ะคะ ปกติชอบใช้ กระดาษรองอาหาร แบบไหนกันบ้าง มาแชร์ประสบการณ์กันได้เลยนะ!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น